วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

"สมุย-พะงัน" ป่วน!


"สมุย-พะงัน" ป่วน! ไฟฟ้าดับทั้ง 1 เกาะ เคเบิ้ลใต้ดินระเบิด นักท่องเที่ยวแห่เช็คเอาท์เพียบ!



ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม  ว่า  ที่ อ.เกาะสมุย และ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นเกาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ ได้เกิดความวุ่นวายเนื่องจากกระแสไฟฟ้าดับทั้ง 2 เกาะต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม โดยบางพื้นที่ยังมีกระแสไฟฟ้าใช้และดับเป็นช่วงๆ ซึ่งในช่วงกลางคืนโรงแรมรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่มีเครื่องยนต์กำเนิดไฟฟ้าต้องปั่นกระแสไฟฟ้าเอง ส่วนบังกะโลและรีสอร์ทขนาดเล็กต้องใช้เทียนจุดให้กับแขกที่เข้าพัก


เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) อ.เกาะสมุย ชี้แจงว่า สาเหตุมาจากจุดข้อต่อสายเมนเคเบิ้ลไฟฟ้าใต้ดินเส้นใหญ่ขนาด 115 KV (กิโลโวลต์) ที่จ่ายไฟเลี้ยงทั้ง 2 เกาะฝังอยู่ลึกใต้ผิวดินประมาณ 1 เมตร ระหว่างชายฝั่งบ้านพังกา – สถานีไฟฟ้าพังงา หมู่ 4 ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย ซึ่งเชื่อมมาจากสายเคเบิ้ลใต้น้ำ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช – บ้านพังงา ได้เกิดระเบิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 4 ธันวาคม ทำให้ไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าต่อไปได้

“  กฟภ.ได้แก้ปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น โดยนำกระแสไฟฟ้าขนาด 33 KV ของสายเคเบิ้ลใต้น้ำอีกเส้นหนึ่งที่มีอยู่เดิมมาจ่ายไฟฟ้าไปพรางก่อน แต่จ่ายเลี้ยงบนเกาะสมุยได้เป็นบางพื้นที่และแบ่งเป็นโซนๆละ 2 ชั่วโมงดับสลับกันไป เนื่องจากกระแสไฟฟ้าไม่พอและให้ประชาชนหุงทำอาหารได้ก่อน ” เจ้าหน้าที่ กฟภ.กล่าว

นายสุนทร ภู่ไพบูลย์ ผู้จัดการโรงแรมโครอลโคฟสมุย หาดเฉวงน้อย ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย กล่าวว่า ได้ปั่นเครื่องไฟฟ้าใช้เองตั้งแต่เช้าวันที่ 4 ธันวาคมถึง 2 ทุ่ม ทำให้เครื่องร้อนจัดจนน็อคดับไป ซึ่งได้รีบชี้แจงให้นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศรวมทั้งแขกที่เข้าพักได้ทราบและยังดีที่น้ำประปายังไหลอยู่มีน้ำให้แขกได้ใช้อาบไม่เช่นนั้นต้องมีการยกเลิกคืนห้องพักเกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการยกเลิกการเข้าพักใดๆ


“ โรงแรมหลายแห่งเริ่มซื้อหาน้ำมันเชื้อเพลิงมาสำรองไว้ใช้แล้ว เนื่องจากเกรงน้ำมันบนเกาะจะไม่พอ และปั๊มน้ำมันบางแห่งจ่ายน้ำมันไม่ได้ เพราะไม่มีเครื่องปั่นไฟและระบบโทรศัพท์มือถือใช้การติดต่อไม่ได้แล้ว เพราะไฟสำรองตามเสาส่งสัญญาณหมดไปแล้วเช่นกัน ” นายสุนทร กล่าว

นางวรรณี ไทยพานิช นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน กล่าวว่า ไฟฟ้าดับทั้งเกาะมาเป็นวันที่ 2 แล้ว บรรดาร้านอาหารที่มีตู้แช่ เช่น ร้านไอศกรีม ต้องเสียหายหายแห่ง และรีสอร์ทหลายแห่งที่ไม่มีเครื่องปั่นไฟต้องเดือดร้อนไปตามๆกัน เนื่องแขกชาวต่างประเทศที่เข้าพักได้ยกเลิกคืนห้องย้ายไปพักตามโรงแรมใหญ่ที่มีเครื่องปั่นไฟแทน

ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น.นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผวจ.สุราษฎร์ธานี และนายศักดา นาวารัตน์ รอง ผอ.กองบริการลูกค้า กฟภ.เขต 2 ภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช ร่วมแถลงข่าวที่ศาลากลาง จ.สุราษฎร์ธานี

นายศักดา กล่าวว่า สาเหตุไฟฟ้าลัดวงจรเกิดจากโรงไฟฟ้าที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ของบริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด (แอคโก้) ได้หยุดปรับปรุงระบบจ่ายไฟเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นได้จ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรจนไฟดับทั้งเกาะสมุยและเกาะพะงัน ซึ่งมีปริมาณใช้กระแสไฟฟ้า 90 เมกะวัตต์ต่อวัน

“ จากการส่งทีมช่าง กฟภ.จากรุงเทพฯเข้าตรวจสอบสายเคเบิ้ลไฟฟ้าใต้ดินบนเกาะสมุยระยะทาง 30 กิโลเมตรจนถึงเวลา 01.00 น.วันที่ 5 ธ.ค.พบว่า สายเคเบิ้ลไฟฟ้าขนาดเส้นผ่าสูนย์กลาง 250 มิลลิเมตรตรงจุดต่อสายบ้านพังงา ต.ตลิ่งงาม ได้เกิดไฟรั่วลัดวงจร กฟภ.จึงได้ส่งผู้เชี่ยวชาญของส่วนกลางที่ทำงานอยู่ จ.เชียงรายลงมาเกาะสมุยโดยด่วนถึงเวลา 15.00 น.จะเข้าซ่อมทันที เบื้องต้นคาดจะใช้เวลา 6-8 ชั่วโมงในการเชื่อมต่อ หากไม่มีปัญหาจะจ่ายไฟได้เวลา 23.00 น. ” นายศักดา กล่าว

นายศักดา กล่าวและว่า การแก้ปัญหาในขณะนี้ระบบไฟฟ้า 33 เควีที่มีอยู่จ่ายกระแสไฟได้ 15 เมกะวัตต์ จะจ่ายหมุนเวียน ได้ 2 ชั่วโมงต่อพื้นที่ โดยจ่ายได้เพียง 1 ใน 5 ของผู้ใช้ไฟฟ้าทั้ง 2 เกาะเท่านั้นและได้ส่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่ไปสำรองไว้ที่โรงพยาบาลเกาะสมุย พร้อมมีการระดมรถโมบาย(รถยนต์เครื่องกำเนิดไฟฟ้า) ชุดแรก 4-5 คันของ กฟภ.ลงไปปั่นจ่ายไฟพื้นที่เกาะสมุยและเกาะพะงันแล้ว

นายฉัตรป้อง กล่าวว่า มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเนื่องจากเป็นวันหยุด โดยนักท่องเที่ยวบนเกาะสมุย ในช่วงวันหยุดประมาณ 20,000 คน ได้เดินทางออกจากเกาะไปแล้วเหลือประมาณ 1,000 คนเท่านั้น ส่วนเกาะเต่าไม่มีผลกระทบเพราะมีไฟฟ้าใช้เอง 

“ ขณะนี้ได้สั่งการด่วนไปยังคลังน้ำมันบริษัท ปตท.สุราษฎร์ธานี ให้ระดมส่งน้ำมันบรรทุกน้ำมันลงไปที่เกาะสมุยและเกาะพะงัน เนื่องจากสถานประกอบโรงแรมรีสอร์ทระดับ 3 ดาวลงมาไม่มีเครื่องปั่นไฟ และน้ำมันบนเกาะเริ่มขาดแคลนและมีการกักตุนขึ้น ” นายฉัตรป้อง กล่าว   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น