วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สีสันแห่งสายน้ำ


สีสันแห่งสายน้ำ

วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 13:29:53 น.
  

คอลัมน์ เพลินอุรา โดย เรวดี พงศ์ไชยยง 


ใกล้เทศกาลลอยกระทงเข้าไปทุกที ปีนี้ใครยังเลือกไม่ถูกว่าจะไปลอยกระทงที่ไหน ขอแนะนำงาน "เทศกาลสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง" ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-30 พฤศจิกายนนี้ ที่ 8 พื้นที่หลักทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ สุโขทัย ตาก เชียงใหม่ อยุธยา สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี และสงขลา ซึ่งแต่ละพื้นที่จะมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจแตกต่างกันไป

นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการภาพถ่าย ที่เผยแพร่ความสวยงามของบรรยากาศในเทศกาลลอยกระทงของแต่ละพื้นที่ ระหว่างวันที่ 24-28 พฤศจิกายน ที่เอเชียทีค เดอะริเวอร์ ฟร้อนท์ ซึ่งเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติได้ชื่นชมความหลากหลายและรับรู้ถึงความสำคัญของงานลอยกระทง ที่เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติไทยด้วย

ประเพณีลอยกระทง เป็นประเพณีของไทยที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่สมัยสุโขทัย นิยมลอยกระทงในวันเพ็ญเดือน 12 เพื่อขอขมาต่อพระแม่คงคา

บางหลักฐานเชื่อว่าเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานทีและบางหลักฐานก็ว่าเป็นการบูชาพระอุปคุตอรหันต์หรือพระมหาสาวก

สำหรับประเทศไทย มีการจัดประเพณีนี้ขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

ลอยกระทงรัตนโกสินทร์ ปรากฏหลักฐานในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค) กล่าวไว้ว่า "ครั้นมาถึงเดือน 12 ขึ้น 14 ค่ำ 15 ค่ำ แรมค่ำหนึ่งพิธีจองเปรียงนั้น เดิมได้โปรดให้ขอแรงพระบรมวงศานุวงศ์ ฝ่ายหน้า ฝ่ายใน และข้าราชการที่มีกำลังพาหนะมาทำกระทงใหญ่ ผู้ถูกเกณฑ์ต่อเป็นถังบ้าง ทำเป็นแพหยวกบ้าง ทำประกวดประขันกันต่างๆ

ทำอย่างเขาพระสุเมรุทวีปทั้ง 4 บ้าง และทำเป็นกระจาดชั้นๆ บ้าง วิจิตรไปด้วยเครื่องสด คนทำก็นับร้อย คิดในการลงทุนทำกระทงทั้งค่าเลี้ยงคนและพระช่าง

การทำกระทงใหญ่ในลักษณะดังกล่าวนี้ น่าจะมาแต่รัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาลที่ 3 ครั้นมาถึงรัชกาลที่ 4 ทรงเห็นว่าเป็นการสิ้นเปลือง จึงโปรดให้ยกเลิกเสีย และโปรดให้พระบรมวงศานุวงศ์ ทำเรือลอยประทีป แทนกระทงใหญ่ถวายองค์ละลำ เรียกว่า "เรือลอยประทีป"

ส่วนประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ เป็นประเพณีบูชาด้วยประทีปที่มีมาแต่งครั้งกรุงสุโขทัย ตามที่ปรากฏหลักฐานในหลักศิลาจารึก พ่อขุนรามคำแหงหลักที่ 1 และในหนังสือตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์หรือตำนานนางนพมาศ ซึ่งเป็นพระสนมเอกของพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไท) แห่งกรุงสุโขทัย ได้กล่าวถึงวันเพ็ญเดือนสิบสองว่า เป็นเวลาเสด็จประพาสลำน้ำตามพระราชพิธี ในเวลากลางคืนและได้มีรับสั่งให้บรรดาพระสนมนางในทั้งหลายตกแต่งกระทงประดับดอกไม้ ธูปเทียนนำไปลอยน้ำหน้าพระที่นั่ง

ในคราวนั้นท้าวศรีจุฬาลักษณ์หรือนางนพมาศพระสนมเอก ได้คิดประดิษฐ์กระทงเป็นรูปดอกบัวโกมุทขึ้น ด้วยเห็นว่าเป็นดอกบัวพิเศษที่บานในเวลากลางคืน เพียงปีละครั้งในวันดังกล่าว สมควรทำเป็นกระทงแต่งประทีปลอยไปถวายสักการะรอยพระพุทธบาท เมื่อพระร่วงเจ้าได้ทอดพระเนตรเห็นก็รับสั่งถามถึงความหมาย นางก็ได้ทูลอธิบาย จนเป็นที่พอพระราชหฤทัย

นอกจากประวัติความเป็นมาของประเพณีที่รู้จักกันไปทั่วโลกแล้ว ยังมีข้อมูลการจัดงานของแต่ละจังหวัดให้เลือกชมเลือกพิจารณา

อาทิ งานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2555 จ.ตาก ชื่นชมการลอยประทีป ชมกระทงนำ กระทงกะลา กระทงปิดท้ายของกระทงทุกสายที่ส่งเข้าประกวด

งานประเพณียี่เป็ง จ.เชียงใหม่ ที่มีประกวดโคมบูชาและนิทรรศการโคมบูชา การแสดงพื้นบ้าน ศิลปวัฒนธรรมล้านนา รวมถึงการสาธิตประดิษฐ์โคม ตุง ล้านนา และกระทง ที่เป็นการลอยโคมขึ้นฟ้า ต่างจากการลอยกระทงลงน้ำ แต่ให้ความสวยงามไม่แพ้กัน

ส่วนในภาคกลาง หลายจังหวัดจะมีการจัดงานประกวดกระทงและนางนพมาศ ตลอดจนการแสดงศิลปวัฒนธรรมหลากหลายความบันเทิงรูปแบบต่างๆ เช่น งานลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม กว่า 1 แสนใบ ตลอดลำน้ำแม่กลอง

ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น ที่สำคัญอย่าสนุกกันจนหลงลืมความเป็นประเพณีที่ดีงาม ที่เพลิดเพลินได้แบบคนมีวัฒนธรรม

หน้า 5,มติชนรายวัน ฉบับวันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน 2555

ปรากฏการณ์ทะเล"สีเลือด"ที่ออสเตรเลีย


นักท่องเที่ยวตะลึง ปรากฏการณ์ทะเล"สีเลือด"ที่ออสเตรเลีย

วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 10:40:38 น.
  


นักท่องเที่ยวต่างมุ่งหน้าไปยังชายหาดบอนได ในรัฐนิวเซาธ์เวลส์ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของออสเตรเลีย เพื่อไปชมปรากฏการณ์ประหลาด เมื่อน้ำทะเลบริเวณนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดง




ชายหาดบอนได สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมใกล้กับนครซิดนีย์ ต้องปิดให้ประชาชนลงเล่นน้ำชั่วคราว หลังจากสาหร่ายที่อยู่ในระยะเวลาที่เจริญเติบโตถึงที่สุดก่อให้เกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลกลายเป็นสีแดงคล้ายสีเลือด อย่างไรก็ดี แม้จะมีคำเตือนออกมา แต่ก็ไม่สามารถห้ามให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความประหลาดลงไปแหวกว่ายในน้ำทะเลสีแดงได้




ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติดังกล่าว เกิดขึ้นจากสาหร่ายทะเล Nocturnal Scintillans ที่เติบโตอย่างเต็มที่ และพืชหลายชนิดที่มีขาดเล็กมากซึ่งมีหลากหลายสีสัน ซึ่งอยู่รวมกันในในบริเวณเดียวกัน แสดงปฏิกิริยาบางอย่าง




ทั้งนี้ โฆษกสำนักงานน้ำรัฐนิวเซาธ์เวลส์ เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าว เกิดจากการลอยตัวขึ้นของน้ำเย็นที่มีความอุดมสมบูรณ์ ประกอบกับการเติบโตเต็มที่ของสาหร่าย หรือมีชื่อหนึ่งว่า ปรากฏการณ์"สายน้ำสีแดง" ที่มักเกิดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิและถฤูใบไม้ร่วง เมื่อน้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้น และเกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทางครั้งใหญ่ของกระแสน้ำในทะเล ซึ่งอาจทำให้ปลาและสัตว์น้ำในทะเลตายเป็นจำนวนมาก




อย่างไรก็ดีได้กล่าวเตือนว่า การสัมผัสกับสาหร่ายดังกล่าว อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์เล็กน้อย อาทิ การเกิดผดผื่นคันบริเวณผิวหน้ง การระคายเตืองตา และจะต้องปิดหาดจนกว่าปรากฏการณ์นี้จะหายไป ส่วนนักท่องเที่ยวหวังว่า สาหร่ายดังกล่าวจะหายไปในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าอุณหภูมิจะพุ่งขึ้นเป็น 40 องศาเซลเซียส






วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

"ครอบครัวกลางถนน"ของจริง

"ครอบครัวกลางถนน"ของจริง เมื่อสองตายายชาวจีนไม่ยอมย้ายออก

วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 10:30:28 น.
  


สองสามีภรรยาชาวจีน อาศัยอยู่ในบ้านขนาด 10 ห้องหลังหนึ่งพร้อมบุตรชาย แต่บ้านหลังนี้ไม่ธรรมดา เนื่องจากตั้งอยู่ตรงจุดกึ่งกลางถนนตัดใหม่สายหนึ่งที่เมืองเหวิ่นหลิง มณฑลเจ้อเจียง




เจ้าหน้าที่เผยว่า เจ้าของบ้านสองคน ไม่ยอมย้ายออก เนื่องจากไม่พอใจข้อเสนอเรื่องค่าชดเชยของทางการ ทำให้พวกเขามีสิทธิถูกต้องตามกฎหมายในการอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว จนกว่าจะได้รับข้อเสนอที่น่าพอใจ

เมื่อปี 2008 มากกว่า 500 ครอบครัวเริ่มย้ายออกจากบริเวณดังกล่าว เนื่องจากถูกเวนคืนที่เพื่อสร้างถนนสายใหม่ แต่ทั้งสองกลับไม่ยอมเซ็นรับข้อเสนอของทางการ เนื่องจากเห็นว่าค่าชดเชยการเวนคืนไม่เหมาะสม

นายหลิว เป่าเหงิน เจ้าของบ้านเปิดเผยว่า ทางการจ่ายค่าชดเชยเพียง 260,000 หยวน (ราว 1.3 ล้านบาท) ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้านหลังใหม่




ด้านนายหลิน ซูฟาง รองผู้ว่าการเขตต้าซี ซึ่งดูแลเรื่องการทุบทำลายบ้าน กล่าวว่า เงินชดเชยดังกล่าวมีความเหมาะสม เนื่องจากคำนวณจากค่าเฉลี่ยที่ตารางเมตรละ 330 หยวน ซึ่งมากกว่าค่าชดเชยมาตรฐานที่รัฐบาลเป็นผู้กำหนดถึง 30 หยวน และหากว่าต้องจ่ายให้ครอบครัวของนายหลิวมากกว่าครอบครัวอื่น ทางการอาจถูกมองว่าไม่มีความยุติธรรม




เจ้าหน้าที่ได้ไปเยี่ยมเยือนนายหลิวและภรรยาบ่อยครั้ง นับตั้งแต่ฤดูหนาวปีที่แล้ว เพื่อพยายามเกลี่ยกล่อมและชักจูงให้เขาและภรรยายอมย้ายออกจากบ้าน เนื่องจากโครงการตัดถนนเพื่อเชื่อมสถานีรถไฟล่าช้าออกไปไม่ได้อีก

นายหลินเผยว่า หากนายหลิวยังคงปฏิเสธ ทางการก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องตัดถนนในลักษณะเช่นนี้ ทำให้นายหลิวยังคงเป็นบ้านเพียงหลังเดียวในย่านนี้ที่ยังไม่ยอมไปไหน แม้ลูกชายของเขาจะย้ายออกไปแล้วก็ตาม




ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งเผยว่า โครงการตัดถนนของรัฐบาลเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน  รัฐบาลจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อเดินหน้าโครงการต่อไป






ซิ่งชนวินาศสันตะโร 140คัน

ซิ่งชนวินาศสันตะโร 140คัน ตาย 2เจ็บอีก 80คน เหตุเกิดบนถนนอินเตอร์สเตต รัฐเท็กซัส ขณะหมอกลงจัด

วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 13:47:44 น.


สภาพความเสียหายจากอุบัติเหตุครั้งร้ายแรงบนถนนอินเตอร์สเตต ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิต2เจ็บอีก80ราย (เอพี)

เกิดเหตุซิ่งชนวินาศสันตะโร 140คัน บนถนนเชื่อมระหว่างรัฐหรืออินเตอร์สเตต สาย10ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของโบมอนต์ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิต 2คน ได้รับบาดเจ็บกว่า 80คน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่เกิดหมอกลงหนาจัด เมื่อเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 22พฤศจิกายนตามเวลาในสหรัฐฯ เป็นวันขอบคุณพระเจ้า ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1หญิง1 ขับรถเชฟวี่ รุ่นเอสยูวี ถูกรถบรรทุกแทรกเตอร์ชน

ผู้ช่วยนายอำเภอของเขตเจฟเฟอร์สัน ระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บราว80-90คนนำส่งโรงพยาบาล ในจำนวนนั้น 10-20คนอาการสาหัส และรถยนต์ รถบรรทุกราว 140-150คันที่พุ่งชนอย่างแรง บางคันกระเด็นขึ้นไปทับบนหลังคารถอีกคัน ตำรวจต้องใช้เวลากว่า 8ชั่วโมง กว่าจะเคลียร์ถนนให้กลับสู่ภาวะปกติ

น้ำอัดลม"แองกรี้เบิร์ด"ยอดขายอันดับ 1


น้ำอัดลม"แองกรี้เบิร์ด"ยอดขายอันดับ 1 แซงหน้า"โค้ก-เป็ปซี่"ในฟินแลนด์


ไม่เพียงแค่เป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสมาร์ทโฟนแล้ว แต่"แองกรี้เบิร์ด" ยังออกผลิตภัณฑ์น้ำอัดลม กระทั่งปัจจุบันกลายเป็นน้ำอัดลมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในฟินแลนด์ เหนือแบรนด์ดังอย่าง"โคคา-โคลา"และ"เป็ปซี"




นายปีเตอร์ เวสเตอร์บัคก้า ประธานฝ่ายการตลาด บริษัท โรวิโอ เจ้าของเกมดังอย่างแองกรี้เบิร์ด ได้ประกาศข่าวดังกล่าวที่การประชุมในกรุงเฮลซิงกิ พร้อมทั้งเปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะวางจำหน่ายเครื่องดื่มชนิดนี้ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในเร็วๆนี้ด้วย

รายงานข่าวของเว็บไซต์เน็กซ์ เว็บ ซึ่งรายงานข่าวนี้ เปิดเผยว่า มันมีรสชาติคล้ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมยี่ห้อ Lilt ของบ.โคคา-โคลา ที่แต่งกลิ่นและรสให้คล้ายผลไม้เมืองร้อนหลายชนิด แต่มีรสหวานน้อยกว่า

ตามข้อมูลของบริษัท ระบุส่วนผสมหลักในเครื่องดื่ม ได้แก่ น้ำ น้ำตาล และฟรุกโตส โดยมีคอนเซ็ปต์ว่า "break the shackles" หรือ"ปลดปล่อยจากพันธนาการ" จากรสชาติเดิมๆของน้ำอัดลมทั่วไป

ทั้งนี้ มีการผลิต 4 รสชาติด้วยกัน ได้แก่ "ทรอปิค" หรือรสผลไม้เมืองร้อน, "พาราไดซ์" หรือรสสัปปะรดผสมส้มแมนดาริน, "ลากูน" หรือรสแอปเปิ้ลผสมลูกแพร์ และ "สเปซ โคเม็ต" หรือรสส้มผสมโคล่า นอกจากนั้นยังมีรสชาติสำหรับเด็ก ได้แก่ "Hello Kitty Raspberry" และ "HeviSaurus Pear"




วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ททท.จัดใหญ่ลอยกระทง 8 พื้นที่ ดึงนักท่องเที่ยว 6 แสนคน


ททท.จัดใหญ่ลอยกระทง 8 พื้นที่ ดึงนักท่องเที่ยว 6 แสนคน



 ททท.จัดยิ่งใหญ่เวิลด์อีเวนต์ "ลอยกระทง" 8 จังหวัด ดึงนักท่องเที่ยวกว่า 6 แสนคน ตั้งเป้ารายได้เกือบพันล้านบาท ตลอด 5 วัน ระหว่าง 24-29 พฤศจิกายน นี้ กทม.จัดสุดอลังการนำเรือรบประดับไฟพาล่องเจ้าพระยา

นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผย "มติชนออนไลน์" ว่า วางแผนจัดเทศกาลลอยกระทงระดับเวิลด์ อีเวนต์ กระตุ้นนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วมกิจกรรมทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 24-28 พฤศจิกายน นี้ โดยจะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ในพื้นที่หลัก 8 จังหวัด ตั้งเป้าทำให้เงินสะพัดตลอด 5 วัน ได้ไม่ต่ำกว่า 817 ล้านบาท จากนักท่องเที่ยวรวม 633,600 คน

ส่วนพื้นที่จัดงานลอยกระทง 8 พื้นที่นั้น ไฮไลต์จะอยู่ในกรุงเทพฯ จัด "สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง กรุงเทพมหานคร : สว่างไสว สายน้ำแห่งเจ้าพระยา" สถานที่หลักอยู่ตรงบริเวณเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ และ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตลอดแนวสะพานพุทธยอดฟ้า ไปจนถึงสะพานกรุงธนบุรี ในแต่ละค่ำคืนจะนำเรือรบขนาดใหญ่ 80 ตัน ประดับตกแต่งไฟ แสง สี ล่องไปตามตามลำน้ำ

พร้อมทั้งประดับไฟสว่างไสวตลอดแนวภูมิทัศน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดอรุณ สะพานพระปิ่นเกล้า สะพานพุทธฯ พร้อมทั้งจัดการแสดงพลุชุดพิเศษเป็นปีแรก ประกอบเข้ากับ แสง สี ผสมผสาน เสียงเพลงจากบทประพันธ์ชั้นครูคืออาจารย์ ไกวัล กุลวัฒโนทัย ชุดพิเศษ ในชื่อ สว่างไสว สายน้ำแห่งเจ้าพระยา 

รวมถึงเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าร่วมกิจกรรม "สว่างไสว ดนตรี เสียง สีสัน ริมน้ำเจ้าพระยา" ชมการแสดงนบบูชา ศรัทธาลอยประทีป ขบวนแห่จำลงอพระราชพิธีจองเปรียงลอยประทีป การร้องเพลงประสานเสียงจากวงสวนพลู การแสดงกลองร่วมสมัย การแสดงออกตัวโขนชุดนางลอย และ นิทรรศการเล่าเรื่องราวผ่านภาพถ่ายเกี่ยวกับเทศกาลลอยกระทง

นายสุรพลกล่าวว่า ส่วนงานลอยกระทงในพื้นที่ท่องเที่ยวหลักอีก 7 จังหวัด ได้แก่ "เผาเทียนเล่นไฟ" จังหวัดสุโขทัย ระหว่าง 24-28 พฤศจิกายน บริเวณ อุทยานประวัติศาสตร์ ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมชุมชนโบราณ ตลาดแลกเบี้ย การละเล่นพื้นบ้าน สาธิตการทำอาหารไทย และ ขบวนนางนพมาศเชื่อมสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น

"ลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง จังหวัดตาก ระหว่าง 24-29 พฤศจิกายน นี้ ที่บริเวณริมสายธาร ลานกระทงสาย เชิงสะพานสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ มีประกวดการแข่งขันลอยกระทงสายของชุมชนต่าง ๆ ชิงถ้วยพระราชทาน และมีสินค้าโอท็อปจำหน่าย

"งานประเพณียี่เป็ง" จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่าง 27-29 พฤศจิกายน นี้ บริเวณถนนช้างคลาน ย่านไนท์บาซาร์ อำเภอเมือง และ อำเภอแม่โจ้ ระหว่าง 24-30 พฤศจิกายน นี้  ชมขบวนแห้่โคมยี่เป็ง กาดหมั้วล้านนา ศิลปวัฒนธรรม สาธิตประดิษฐ์โคม ตุง ล้านนา

"เทศกาลลอยกระทงตามประทีป" จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ ร่วมย้อนยุคกับบทเพลงสุนทรภรณ์ในบรรยากาศริมฝั่งเจ้าพระยา โดยมีอาหารอร่อยและสินค้าหัตถกรรมจากฝีช่างศูนย์ศิลปชีพให้ช็อปปิ้ง และ การจุดพลุ ปล่อยโคมยามค่ำคืน

"ลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง" จังหวัดสมุทรสงคราม วันที่ 28 พฤศจิกายน นี้ บริเวณวัดแก้วฟ้า อำเภอเมือง  ได้จัดพิธีลอยกระทงกาบกล้วย 1 แสนใบ ตลอดลำน้ำแม่กลอง พร้อมการแสดงบนฝั่งมากมาย

"ลอยกระทง" จังหวัดสุพรรณบุรี วันที่ 28 พฤศจิกายน นี้ บริเวณแม่น้ำสุพรรณบุรีหรือท่าจีน อำเภอเมือง ชมขบวนไหลเรือไฟ การแสดงพลุ ดอกไม้ไฟ ไฟเพนียง และอื่น ๆ

"ลอยกระทงพื้นบ้าน" จังหวัดสงขลา ระหว่าง 27-28 พฤศจิกายน นี้ บริเวณท่าน้ำบางหัก อำเภอหาดใหญ่ สนุกสนานกับการประกวดนางนพมาศ งานออกร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง 

สื่อนอกแอบเกรียน! เสนอข่าวภาพโอบามากับยิ่งลักษณ์พาดหัว "เสน่ห์ระหว่างผู้นำ" !!


สื่อนอกแอบเกรียน! เสนอข่าวภาพโอบามากับยิ่งลักษณ์พาดหัว "เสน่ห์ระหว่างผู้นำ" !!



ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ อ้างการเปิดเผยจาก เว็บไซต์เดลี่เมล์ ของอังกฤษที่รายงานข่าวพร้อมนำเสนอภาพเชิงสีสันระหว่างการเยือน 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาบารัค โอบามา โดยอ้างอิงภาพจากสำนักข่าวต่างประเทศทั้งจากเอพี และเอเอฟพี โดยพาดหัวอย่างมีสีสันทำนองว่า "เสน่ห์ระหว่างผู้นำ" โอบามากับการสนทนากับนายกฯไทยอย่างออกรสระหว่างการเยือนครั้งประวัติศาสตร์ในเอเชีย พร้อมเลือกภาพประกอบระหว่างโอบามากับยิ่งลักษณ์ที่ดูมีสีสัน พร้อมคำบรรยายในแบบข่าวแทบลอยด์แบบดราม่า เป็นต้นว่าทั้งคู่หัวเราะด้วยกัน หรือบรรยายว่าต่างแลกเปลี่ยนสายตาขี้เล่นตลอดมื้อค่ำที่จัดโดยรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล







วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

รถหรู “สตาร์เทค” บุกตลาดไทยส่งท้ายปี


รถหรู “สตาร์เทค” บุกตลาดไทยส่งท้ายปี เตรียมแนะนำรุ่น "เอสดี 22" ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปร ครั้งที่ 29



ยูม่า มอเตอร์ส กรุ๊ป ตัวแทนจำหน่ายยนตกรรมหรูแบรนด์ บราบัส วิสมันน์ สตาร์เทค และผู้นำเข้ายนตกรรมหรูระดับ ซุปเปอร์ ลักชัวร์รี่ คาร์ เปิดแบรนด์ใหม่ล่าสุด “สตาร์เทค” รถยนต์หรูจากประเทศเยอรมนี พร้อมแนะนำรุ่น เอสดี 22 (ST SD 22) ครั้งแรกในงานมหากรรมยานยนต์ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2555
 
นายชัชวัฎ สุวรรณโฌชิน ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ยูม่า มอเตอร์ส กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยนตกรรมหรูแบรนด์ บราบัส วิสมันน กว่า  4 ปี เห็นความเติบโตของกลุ่มลูกค้าที่นิยมยนตกรรมหรูระดับ ซุปเปอร์ ลักชัวร์รี่ คาร์ ที่เติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการรถยนต์หรูหราที่เป็นเอกลักษณ์ จึงขยายตลาดโดยการนำเข้า แบรนด์รถหรู “สตาร์เทค” เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าดังกล่าว โดยเตรียมเปิดตัว สตาร์เทค เอสดี 22 ครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 นี้ พร้อมกันนี้บริษัทยังจะเปิดตัว บราบัส สมาร์ท 120 อัลติเมท และ บราบัส เอสแอล บี 50 ที่เป็นการเปิดตัวครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

สำหรับรถยนต์สตาร์เทค รุ่น เอสดี 22 มีขนาดเครื่องยนต์ 2,179 ซีซี 215 แรงม้า มีอัตรา เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 8.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารยังออกแบบวัสดุภายในทั้งหมดเป็นหนังแท้คุณภาพสูง







  
  
  

เสน่ห์ไทย ณ วัดโพธิ์ ′พญาอินทรี′ยังอดใจไม่ได้


เสน่ห์ไทย ณ วัดโพธิ์ ′พญาอินทรี′ยังอดใจไม่ได้




เมื่อผู้นำประเทศมหาอำนาจของโลกอย่าง "สหรัฐอเมริกา" มาเยือนเอเชีย ย่อมไม่พ้นเป็นเป้าความสนใจ โดยเฉพาะ "บารัค โอบามา" ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่งชนะการเลือกตั้ง ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีในสมัยที่ 2 และถือเป็นครั้งแรกที่มาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

ในวันที่ 18 พฤศจิกายน วันแรกของผู้นำแดนพญาอินทรีจะก้าวลงที่ประเทศไทย "บารัค โอบามา" กลับให้ความสนใจเดินทางไป "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม" หรือที่เราเรียกสั้นๆ ว่า "วัดโพธิ์"

ตามข้อมูลที่สื่อหลายสำนักได้รายงานออกมานั้นระบุว่าจะมาเยี่ยมชมทั้งหมด 4 จุด คือ พระอุโบสถ ที่ประดิษฐานพระพุทธเทวปฏิมากร, พระวิหารพระพุทธไสยาสน์, พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล และภูเขามอที่ตั้งรูปปั้นฤๅษีดัดตน

วัดโพธิ์นี้มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่รัชกาลที่ 1 มีวัตถุโบราณ และศาสตร์วิชานวดแผนโบราณ ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และยังได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโก ขึ้นทะเบียนจารึกของวัดว่าเป็นมรดกความทรงจำโลก ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในปี 2551 และปี 2554

ผู้สื่อข่าว "มติชน" ได้ลงสำรวจพื้นที่วัดโพธิ์ ก่อนที่ "บารัค โอบามา" จะเดินทางมา 1 วัน พบว่า ช่วงนี้เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวซึ่งชาวยุโรปมักจะหนีอากาศหนาวมายังประเทศแถบอบอุ่น ในช่วงนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยนับแสนคน 



ชาวต่างประเทศ หากต้องการเข้าชม "วัดโพธิ์" นั้นจะต้องเสียค่าบริการเข้าชมคนละ 100 บาท แต่หากเป็นคนไทยเข้าฟรี แต่ก็ยังเห็นคนไทยเข้ามาเที่ยวกันน้อยนิดหากเทียบกับชาวต่างชาติแล้ว

สำหรับ 4 จุดที่ "บารัค โอบามา" มีกำหนดการเข้าชมภายในวัดนั้น ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญและความงดงาม รวมทั้งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง

อย่าง พระอุโบสถ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 เป็นที่ประดิษฐานพระประธานคือ "พระพุทธเทวปฏิมากร" พระพุทธรูปปางสมาธิที่มีความงดงามองค์หนึ่ง

พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ ที่นอกจากจะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยแล้ว ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่มีความงดงามอยู่ภายในด้วย ซึ่งไกด์ทุกคนบอกว่าพลาดไม่ได้เลยเพราะเป็นพระนอนที่มีความสวยงามมาก รวมทั้งเกือบทุกบริษัททัวร์จะระบุไว้ในโปรแกรมการท่องเที่ยว

พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล เป็นกลุ่มเจดีย์ที่มีความงดงามเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์แบบจีน ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ เครื่องถ้วยหลากสี มีตุ๊กตาหินจีนประตูละคู่ พระมหาเจดีย์แต่ละองค์เป็นเจดีย์ย่อไม้สิบสองเพิ่มมุมสูง 42 เมตร

สำหรับจุดที่ "บารัค โอบามา" จะเดินทางมาเยี่ยมชมอีกแห่งนั้น คือ "ภูเขามอ" 2 ลูกที่ตั้งอยู่บริเวณศาลาทิพยะรโหฐาน

"พระครูสุนทรโฆสิต" ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เล่าว่า ภูเขามอทั้ง 2 ลูกนี้จะมีฤๅษีดัดตนที่ทำจากปูนปั้น สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1

จากนั้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้บูรณะโดยการหุ้มดีบุกอีกชั้นหนึ่ง มีทั้งหมด 81 ตน 80 ท่า ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 25 ตน 20 ท่า เนื่องจากชำรุดเสียหาย

จุดนี้คาดว่าจะเป็นจุดที่ผู้นำแดนพญาอินทรีจะเข้าชมเป็นที่แรกหลังจากเปลี่ยนเครื่องแต่งกายที่ศาลาทิพยะรโหฐาน นอกจากนั้นในบริเวณภูเขามอนั้นมีพืชสมุนไพรปลูกอยู่เต็มบริเวณ

อาทิ เสลดพังพอน พญาไร้ใบ ฟ้าทะลายโจร ดีปลี มะกอก มะขามป้อม ฯลฯ รวมทั้งยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ความสนใจเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก

พระครูสุนทรโฆษิตบอกอีกว่า ทราบมาว่าประธานาธิบดีโอบามามีความสนใจเรื่องวัตถุโบราณ ศิลปะแบบไทย ซึ่งฤๅษีดัดตนก็ถือเป็นโบราณวัตถุที่มีความน่าสนใจอย่างหนึ่ง เพราะนอกจากจะมีท่วงท่าที่เป็นเอกลักษณ์ของฤๅษีแล้ว ยังเป็นศาสตร์ที่ใช้สำหรับการบำเพ็ญพรต รวมทั้งยังนำมาใช้ในการนวดแผนโบราณเพื่อรักษาโรคอีกด้วย

ซึ่งในวันที่ "โอบามา" มาเยี่ยมชมวัด จะมีพระธรรมปัญญาบดี เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ คอยให้การต้อนรับและจะมอบหนังสือประวัติของวัดโพธิ์ให้ด้วย

ด้านนายเสรัชย์ ตั้งตรงจิตร รองผู้อำนวยการแพทย์แผนโบราณ เล่าว่า เป็นเรื่องที่ดีกับประเทศไทยอย่างมากที่ประธานาธิบดีโอบามาให้ความสนใจในเรื่องการนวดเพื่อรักษาสุขภาพ ซึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา คนในประเทศนี้ให้การยอมรับในศาสตร์นี้และทำให้คนในประเทศนี้เข้าใจความเป็นตะวันออก ทำให้ชื่อเสียงของประเทศไทยกระจายไปทั่วโลก

คนที่จะมาเที่ยวที่ประเทศไทยก็จะมานวดและศึกษาวิชาการนวดด้วย

มรดกไทย สถาปัตยกรรมไทย และประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีคุณค่ามากเพียงใด

เพราะขนาด "ผู้นำพญาอินทรี" ยังอดไม่ได้ที่จะมาเยี่ยมชมความงดงามของสิ่งนี้

เรด ออคโตปุส


"เรด ออคโตปุส"



ในภาพคือตัวอย่างของเจ้าเรด ออคโตปุส ปลาหมึกยักษ์ตอนที่ยังเป็นลูกปลาหมึก ที่เล็กขนาดสามารถนอนอยู่บนปลายนิ้วได้ ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อโตเต็มที่มันจะขยายใหญ่ได้ถึง 6 ฟุต สีแดงเข้ม สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการกินอาหารไม่เลือกราวกับหิวอยู่ตลอดเวลาของมันนั่นเอง

เรด ออคโตปุส ตัวขนาดที่เห็นไต่อยู่ปลายนิ้วแอบเล็ดรอดเข้าไปอยู่ในมอนเทอเรย์ เบย์ อะควอเรียม รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่ามันอาจติดเข้าไปกับก้อนหินหรือไม่ก็ฟองน้ำที่นำเข้าไปตกแต่ง แล้วซ่อนตัวอยู่กับกลุ่มก้อนหินในส่วนจัดแสดงชีวิตใต้ทะเล แอบอยู่อย่างนั้นนานถึง 1 ปี บาร์บารา อัทเทอร์ เจ้าหน้าที่อาวุโสของอะควอเรียม กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่สังเกตพบอยู่เหมือนกันว่าอยู่ดีๆ ปูที่เลี้ยงไว้สำหรับการจัดแสดงหายไปเรื่อยๆ แต่ไม่รู้ว่าหายไปไหน ลงเอยด้วยการคลานออกมาเผยโฉมในที่โล่งในที่สุด

ตอนที่มันปรากฏตัวให้เจ้าหน้าที่อะควอเรียมเห็นนั้น ขนาดมันไม่ได้เล็กจิ๋วอีกต่อไป

แต่โตขนาดกำปั้นเขื่องๆ แล้ว

หน้า 9,มติชนรายวัน ฉบับวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน 2555

เต้น ม้าย่องสไตล์



เต้น ม้าย่องสไตล์ กังนัมสไตล์เพิ่มความหนักหน่วง
ทางท่าเต้นและดนตรีเข้าไปที่จริงคือ "ม้าย่อง"ของไทยนั่นเอง

ศาลประชาชนเมืองคุนหมิงประหารชีวิตนายหน่อคำ

ศาลประชาชนเมืองคุนหมิงได้พิพากษาโทษของนายหน่อคำ พ่อค้ายาเสพติดชาวพม่า และพวก 3 คน ในคดีสังหารลูกเรือจีน 13 คนในแม่น้ำโขง ด้วยการประหารชีวิต(มติชนออนไลน์)

King of Thailand

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับ นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่เดินทางเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของรัฐบาล ณ โรงพยาบาลศิริราช จากนั้น นายบารัคได้เข้าหารือข้อราชการกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล (สำนักพระราชวัง , เดลินิวส์)

วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555


อเล็กซานเดอร์มหาราช

อเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งมาซิโดเนีย (356-323 ปีก่อนคริสตกาล) หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า อเล็กซานเดอร์มหาราช (อังกฤษAlexander III of Macedon หรือ Alexander the GreatกรีกΜέγας ἈλέξανδροςMégas Aléxandros) เป็นกษัตริย์กรีกจากแคว้นมาซิโดเนียผู้สร้างชื่อเสียงมากที่สุดของราชวงศ์อาร์กีด เป็นผู้สร้างจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคโบราณ เกิดที่เมืองเพลลา ตอนเหนือของมาซิโดเนีย เมื่อปีที่ 356 ก่อนคริสตกาล ได้รับการศึกษาตามแบบกรีกดั้งเดิมภายใต้การกำกับดูแลของอริสโตเติล นักปรัชญากรีกผู้มีชื่อเสียง สืบทอดราชบัลลังก์ต่อจาก ฟิลิปที่ 2 แห่งมาซิโดเนีย เมื่อปีที่ 336 ก่อนคริสตกาลหลังจากที่พระบิดาถูกลอบสังหาร สิ้นพระชนม์ในอีก 13 ปีต่อมาเมื่อพระชนมายุเพียง 32 พรรษา แม้ว่าราชบัลลังก์และจักรวรรดิของอเล็กซานเดอร์จะอยู่เพียงชั่วครู่ยาม แต่ผลกระทบจากการพิชิตดินแดนของพระองค์ส่งผลสืบเนื่องต่อมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ อเล็กซานเดอร์ถือเป็นหนึ่งในบุรุษผู้มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกยุคโบราณ มีชื่อเสียงเลื่องลือในความสามารถทางการรบ ยุทธวิธี และการเผยแพร่อารยธรรมกรีกไปในดินแดนตะวันออก
พระเจ้าฟิลิปทรงนำแว่นแคว้นกรีกโดยมากบนแผ่นดินใหญ่กรีซให้มาอยู่ภายใต้การปกครองของมาซิโดเนีย โดยใช้ทั้งกลวิธีทางการทูตและทางทหาร เมื่อฟิลิปสิ้นพระชนม์ อเล็กซานเดอร์จึงได้สืบทอดราชอาณาจักรที่เข้มแข็งและกองทัพที่เปี่ยมประสบการณ์ พระองค์เป็นที่ยอมรับในด้านการรบจากแว่นแคว้นกรีซ และได้เริ่มแผนการขยายอำนาจแผ่อาณาจักรตามที่บิดาเคยริเริ่มไว้ พระองค์ยกทัพรุกรานดินแดนเอเชียไมเนอร์ภายใต้การปกครองของอาณาจักรเปอร์เซีย และกระทำการรณยุทธ์อย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลาร่วมสิบปี อเล็กซานเดอร์เอาชนะชาวเปอร์เซียครั้งแล้วครั้งเล่า นำทัพข้ามซีเรีย อียิปต์ เมโสโปเตเมีย เปอร์เซีย และแบคเทรีย ทรงโค่นล้มกษัตริย์ดาริอุสที่ 3 แห่งเปอร์เซีย และพิชิตจักรวรรดิเปอร์เซียได้ทั้งหมด1 พระองค์ไล่ตามความปรารถนาที่ต้องการเห็น "จุดสิ้นสุดของโลกและมหาสมุทรใหญ่ที่เบื้องปลาย" จึงยกทัพบุกอินเดียแต่ต่อมาถูกบีบให้ต้องถอยทัพกลับโดยบรรดาทหารที่กำเริบขึ้นเนื่องจากเบื่อหน่ายการสงคราม
อเล็กซานเดอร์สิ้นพระชนม์ที่เมืองบาบิโลน ในปีที่ 323 ก่อนคริสตกาล ก่อนจะเริ่มแผนการรบต่อเนื่องในการรุกรานคาบสมุทรอาระเบีย ในปีถัดจากการสิ้นพระชนม์ของอเล็กซานเดอร์ เกิดสงครามกลางเมืองทั่วไปจนอาณาจักรของพระองค์แตกเป็นเสี่ยงๆ ทำให้เกิดเป็นรัฐใหญ่น้อยมากมายปกครองโดยบรรดาขุนนางชาวมาซิโดเนีย แม้ความเป็นผู้พิชิตของพระองค์จะโดดเด่นอย่างยิ่ง แต่มรดกของอเล็กซานเดอร์ที่ยืนยงต่อมากลับมิใช่ราชบัลลังก์ กลายเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมที่ติดตามมาจากการพิชิตดินแดนเหล่านั้น การก่อร่างสร้างเมืองอาณานิคมกรีกและวัฒนธรรมกรีกที่เผยแพร่ไปในแดนตะวันออกทำให้เกิดเป็นวัฒนธรรมเฮเลนนิสติก ซึ่งยังคงสืบทอดต่อมาในจักรวรรดิไบแซนไทน์กระทั่งกลางคริสต์ศตวรรษที่ 15 อเล็กซานเดอร์เป็นบุคคลในตำนานในฐานะวีรบุรุษผู้ตามอย่างอคิลลีส มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมปรัมปราทั้งของฝ่ายกรีกและที่ไม่ใช่กรีก เป็นหลักเกณฑ์มาตรฐานซึ่งบรรดานายพลทั้งหลายใช้เปรียบเทียบกับตนเองแม้จนถึงปัจจุบัน โรงเรียนการทหารทั่วโลกยังคงใช้ยุทธวิธีการรบของพระองค์เป็นแบบอย่างในการเรียนการสอน2

เนื้อหา

  [ซ่อน