วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ดวงจันทร์สีน้ำเงิน

ดวงจันทร์สีน้ำเงิน(Bluemoon)หรือบลูมูน คือดวงจันทร์เต็มดวงที่มีกำหนดเวลาเกิดไม่แน่นอน โดยส่วนใหญ่ในแต่ละปีจะมีดวงจันทร์เต็มดวง 12 ครั้ง เฉลี่ยเกิดประมาณเดือนละหนึ่งครั้ง แต่ถ้าคิดเฉพาะระยะเวลาที่เกิดดวงจันทร์เต็มดวง 12 ครั้ง (รอบ) ในหนึ่งปีของปฏิทินตามระบบสุริยคติจะมีจำนวนวันมากกว่าประมาณ 11 วัน ซึ่งเมื่อนำมาสะสมรวมกัน จะทำให้ทุกสองหรือสามปีมีดวงจันทร์เต็มดวงเพิ่มขึ้นหนึ่งครั้ง (กล่าวคือจะเกิดขึ้น 2.71722874 ปี) ดวงจันทร์เต็มดวงที่เพิ่มขึ้นมานี้เรียกว่า “ดวงจันทร์สีน้ำเงิน" แต่เนื่องจากมีการนิยามความหมายของดวงจันทร์ “ที่เพิ่มขึ้นมานี้" ต่างกัน จึงทำให้การกำหนดวันที่เกิดดวงจันทร์นี้ต่างกัน โดยส่วนใหญ่ดวงจันทร์สีน้ำเงินหมายถึงดวงจันทร์เต็มดวงที่เกิดครั้งที่สองของเดือน [1]

เนื้อหา

  [ซ่อน

[แก้]การใช้คำนี้ในชาวคริสต์และในภาษาอังกฤษยุคแรก

คำว่า “ดวงจันทร์สีน้ำเงิน" (blue moon) มีบันทึกว่าใช้ในภาษาอังกฤษโบราณครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1528 ในหนังสือที่โจมตีนักบวชอังกฤษอย่างรุนแรง[2]หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า Rede Me and Be Not Wrothe [Read me and be not angry] ข้อความมีว่า
Yf they say the mone is belewe / We must believe that it is true
[If they say the moon is blue, we must believe that it is true]
(ถ้าพวกเขาพูดว่าดวงจันทร์เป็นสีน้ำเงิน เราต้องเชื่อว่านั่นเป็นเรื่องจริง)
บางคนตีความคำว่า “ดวงจันทร์สีน้ำเงิน” นี้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับความไร้สาระและเป็นไปไม่ได้ [3] ภาษิตเกี่ยวกับดวงจันทร์ทำนองนี้ที่มีบันทึกครั้งแรกในปีต่อมาคือ
They would make men beleue ... that þe Moone is made of grene chese
[They would make men believe ... that the moon is made of green cheese]
(พวกเขาจะทำให้คนทั้งหลายเชื่อ...ว่าดวงจันทร์ทำมาจากชีสสีเขียว)

[แก้]ดวงจันทร์สีน้ำเงินที่สามารถมองเห็นได้

ความหมายที่แปลตามตัวอักษรที่สุดของคำว่า ดวงจันทร์สีน้ำเงิน คือ ดวงจันทร์ (ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นดวงจันทร์เต็มดวง) ที่ปรากฏแก่ผู้สังเกตเป็นสีออกน้ำเงิน ผิดจากที่เห็นตามปกติ และเป็นเหตุการณ์ที่หาดูได้ยาก การที่ดวงจันทร์เป็นสีน้ำเงินอาจเกิดจากอนุภาคของฝุ่นควันในบรรยากาศ เช่นที่เกิดขึ้นหลังจากไฟป่าในประเทศสวีเดนและแคนาดาในปี ค.ศ. 1950 และที่เห็นเด่นชัดที่สุดเกิดหลังจากภูเขาไฟกรากะตัวระเบิดในปี ค.ศ. 1883 ซึ่งทำให้ดวงจันทร์เป็นสีน้ำเงินเกือบสองปี

[แก้]คติชาวบ้าน

BlueMoon
ในคติชาวบ้าน ในแต่ละเดือนของปี ดวงจันทร์เต็มดวงมีชื่อเรียกหลายชื่อตามฤดูกาลและการเก็บเกี่ยว เช่นharvest moon (จันทร์เพ็ญในฤดูเก็บเกี่ยว) และ snow moon (ดวงจันทร์ในฤดูหนาว) และอาจแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่และวัฒนธรรม เนื่องจากบางปีอาจมีดวงจันทร์เต็มดวงสิบสามครั้ง ในปีนั้นจึงมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ดวงจันทร์เต็มดวงไม่ตรงกับฤดูที่ถูกต้อง และจะเรียกดวงจันทร์เต็มดวงครั้งนั้นว่า ดวงจันทร์สีน้ำเงิน หลังจากนั้น ดวงจันทร์เต็มดวงอีกสิบสองครั้งที่เหลืออยู่ในปีนั้นก็จะปรับตรงตามช่วงเวลาดังเดิม
ต้นกำเนิดของคำว่า “ดวงจันทร์สีน้ำเงิน” แทรกซึมอยู่ในคติชาวบ้าน และความหมายของคำคำนี้ได้แปรเปลี่ยนไปทีละน้อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป บางคติกล่าวว่า ในเวลาที่ดวงจันทร์เป็นสีน้ำเงิน ดวงจันทร์จะมีใบหน้า และจะพูดคุยกับผู้ที่อยู่ใต้แสงจันทร์

[แก้]ดวงจันทร์สีน้ำเงินในบันทึกเหตุการณ์ของชาวนา

ในศตวรรษที่สิบเก้า และต้นศตวรรษที่ยี่สิบ บันทึกเหตุการณ์ของชาวนาเมือง Maine ได้ทำรายการวันที่ที่เกิดดวงจันทร์สีน้ำเงินสำหรับชาวนา วันเหล่านี้ตรงกับดวงจันทร์เต็มดวงครั้งที่สามในไตรมาสของปี เมื่อมีดวงจันทร์เต็มดวงสี่ครั้ง (ตามปกติไตรมาสหนึ่งมีดวงจันทร์เต็มดวงสามครั้ง)

[แก้]เวลาที่จะเกิดดวงจันทร์สีน้ำเงินระหว่างปี ค.ศ. 2009 ถึง 2015

[แก้]ตามฤดูกาล

เมื่อใช้นิยามดวงจันทร์สีน้ำเงินตามบันทึกเหตุการณ์ของชาวนา (ซึ่งหมายถึงดวงจันทร์เต็มดวงครั้งที่สามในฤดูที่มีดวงจันทร์เต็มดวงสี่ครั้ง) จะเกิดดวงจันทร์สีน้ำเงินดังนี้

[แก้]ตามปฏิทิน

เดือนที่มีดวงจันทร์เต็มดวงสองครั้งคือ [4]

[แก้]อ้างอิง

  1. ^ Sinnott, Roger W., Donald W. Olson, and Richard Tresch Fienberg (May 1999). "What's a Blue Moon?"Sky & Telescope.http://skyandtelescope.com/observing/objects/moon/article_127_1.asp. เรียกข้อมูลเมื่อ 2008-02-09. "The trendy definition of "blue Moon" as the second full Moon in a month is a mistake."
  2. ^ Koelbing, Arthur, Ph.D. (1907–21). "Barclay and Skelton: German influence on English literature"The Cambridge History of English and American Literature, Volume IIIBartleby.comhttp://www.bartleby.com/213/0414.html.
  3. ^ Hiscock, Philip (June 19, 2006). "Folklore of the "Blue Moon""International Planetarium Societyhttp://www.ips-planetarium.org/planetarian/articles/folkloreBlueMoon.html.
  4. ^ Giesen, Jurgen (21 พฤษภาคม 2550). "Blue Moon". Physik und Astromoniehttp://jgiesen.de/moon/BlueMoon/. เรียกข้อมูลเมื่อ 20 เมษายน2552.

[แก้]แหล่งข้อมูลอื่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น